สยามคูโบต้า ลงทุน 4,000 ล้านบาท ชง 150 ล้านบาท เปิด ‘ฟาร์มต้นแบบ’ บนพื้นที่ 220 ไร่ ที่ จ.ชลบุรี  พร้มจับมือกรมที่ดิน ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ผลักดันโครงการ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS หนุนฟาร์มต้นแบบให้เป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรสมัยใหม่ครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน

นายฮิโรโตะ คิมุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทมีงบลงทุนก่อสร้างและพัฒนาราว 4,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมีแผนทำคูโบต้า ฟาร์ม ที่จังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่ 220 ไร่ ซึ่งเงินลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้การใช้เครื่องจักรกล คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 63

ขณะที่จากปีนี้เป็นต้นไป บริษัทมีเป้าหมายสำคัญที่จะก้าวสู่การเป็น “Global Major Brand” หรือ “แบรนด์ชั้นนำระดับโลก” ตามความตั้งใจของบริษัทคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทย ด้วยการวิจัยและพัฒนา ทั้งผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรต่างๆ เพื่อส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของเกษตรกร ช่วยให้การทำเกษตรมีความแม่นยำและสะดวกสบายมากขึ้น และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้เติบโตไปกันอย่างยั่งยืน

สำหรับนโยบายรัฐบาลเรื่องเกษตร 4.0 นั้น สยามคูโบต้าได้วาง 4 แนวทาง เพื่อยกระดับแบรนด์สู่นวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคตใน 10 ปีข้างหน้าคือ 1.ความเป็นผู้นำ โดยจะมุ่งสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรชั้นนำระดับโลก 2.นวัตกรรม โดยยกระดับเกษตรกรรมด้วยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลการทำเกษตร (บิ๊กดาต้า) เพื่อช่วยให้บริหารจัดการการเกษตรได้อย่างแม่นยำ 3.การร่วมกันแบบไร้รอยต่อระหว่างองค์กร พนักงาน ผู้แทนจำหน่ายและพันธมิตรธุรกิจ 4.การพัฒนาองค์กรยั่งยืน

นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เกษตร 4.0 ปลายปีนี้จะเปิดตัวแอปพลิเคชันชื่อ kas เพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการผลิต นำร่องด้วยข้อมูลข้าว 3 ชนิด คือ ข้าวหอมดอกมะลิ ข้าวปทุมธานี 1 และข้าวพิษณุโลก 2 และขยายไปยังพืชอื่น เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด.

สำหรับการดำเนินการเรื่องโครงการฟาร์มต้นแบบนั้น บริษัทอยู่ระหว่างผลักดันโครงการ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS เพื่อผลักดัน KUBOTA Farm ที่ จ.ชลบุรี ให้เป็นโครงการนำร่องของการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ระดับประเทศ

“โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เราได้ร่วมมือกับ กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อพัฒนาด้านการส่งเสริมองค์ความรู้เรื่องดินและสนับสนุนการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ยังมีด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรร่วมกัน รวมทั้งการจัดทำศูนย์เรียนรู้พัฒนาที่ดินต้นแบบในพื้นที่คูโบต้าฟาร์ม จ.ชลบุรี เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้จากประสบการณ์จริงด้านการพัฒนาปรับปรุงดินเพื่อการเกษตร โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ‘คูโบต้า พลิกฟื้น ผืนดิน’ ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าใจและเห็นความสำคัญของทรัพยากรดิน เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยให้มีความอุดมสมบูรณ์ อันจะนำมาซึ่งผลผลิตที่ดีมีคุณภาพและสามารถใช้ทรัพยากรดินได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

นอกจากนั้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทยังร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) พัฒนาแอปพลิเคชันปฏิทินการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธี KUBOTA Agri Solution ภายใต้ชื่อ “KAS Crop Calendar Application” ซึ่งเปิดให้เกษตรกรไทยได้ใช้แล้ว เพื่อเป็นคลังความรู้ที่สำคัญของเกษตรกร ในการทำการเกษตรอย่างเข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม ทั้งการแจ้งเตือนสิ่งที่เกษตรกรต้องทำในแต่ละขั้นตอนตามปฏิทินการเพาะปลูก การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ตลอดจนรายงานสรุปภาพรวมด้านการเพาะปลูก เพื่อให้การทำเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพสูงสุด

จาก KAS Crop Calendar Application ก็สานต่อมาที่อีกโครงการ ซึ่งจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของรายได้ที่นอกเหนือจากการขายเครื่องจักรคูโบต้า โดยคูโบต้าวางแผนจะนำเสนอ KAS ให้เกษตรกร พร้อมเข้าไปดูแล อบรมให้ความรู้ พัฒนาการบริหารจัดการฟาร์มให้เป็นเกษตรแม่นยำโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งทางคูโบต้าก็มั่นใจว่า KAS จะเหมาะสมกับการทำเกษตรในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ โดยต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ พันธุ์พืช และเครื่องจักรให้เหมาะกับลักษณะภูมิศาสตร์ที่ต่างกันไป แต่ที่สำคัญ ระบบนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงอย่างเห็นได้ชัด

“ฟาร์มที่จัดตั้งขึ้นมาที่ จ.ชลบุรี จะเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์จริงในการเพาะปลูกพืชด้วยวิธีการเกษตรสมัยใหม่และเป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านการเกษตรแขนงต่างๆ เพื่อถ่ายทอดให้แก่เกษตรกร และยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาอบรม ศึกษาหาความรู้ รวมถึงได้รู้จักและทดลองใช้งานนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ของคูโบต้า โดยจะมีตัวอย่างองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะปลูกที่ใช้ในฟาร์มมาให้ศึกษา”

สำหรับการวางโครงสร้าง ฟาร์มต้นแบบ เกษตรสมัยใหม่ครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน ทางผู้จัดทำแบ่งพื้นที่เฟสที่ 1 ออกเป็น 9 โซน คาดว่าจะแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ในสิ้นปี 2562 นี้ ซึ่งปัจจุบันพัฒนาไปแล้ว 100 ไร่ หรือกว่า 40% และใช้งบลงทุนไปทั้งสิ้น 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ฟาร์มต้นแบบ เฟสที่ 1 แบ่งออกเป็น 9 โซน ดังนี้ 1. โซนแนะนำ KAS แนะนำความเป็นมาและแนวคิดด้านการทำเกษตรครบวงจรที่พัฒนาโดยสยามคูโบต้า พร้อมข้อมูลของโซนที่อยู่ภายในฟาร์ม และยังเป็นจุดให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรด้วย

2. โซนเกษตรแม่นยำและพืชหลังนา จัดแสดงให้เห็นภาพของการทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการทำนาข้าว (Best Practice Farm Management) เช่น การกำหนดแปลงเพาะปลูกให้มีขนาด 1.5-3 ไร่ โดยมีความกว้างของแปลงเหมาะสมกับหน้ากว้างของเครื่องจักรที่ใช้ทำงาน เพื่อลดความสูญเสียจากการทำงาน และช่วยลดต้นทุนด้านการเพาะปลูกลงได้ 10-20% รวมถึงการนำเทคนิคการเพาะปลูกพืชโดยการใช้ปฏิทินเพาะปลูกเข้ามาพัฒนากระบวนการเพาะปลูกให้แม่นยำ

3. โซนการบริหารจัดการฟาร์มเกษตรด้วยแนวคิดรายได้สูง เป็นการสาธิตการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรที่มีขนาด 10-15 ไร่ ให้สามารถสร้างรายได้มากที่สุด โดยใช้ความรู้ด้านการวางแผนเพาะปลูก การบริหารจัดการแปลงตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ และการเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เหมาะสม

4. โซนเกษตรสมัยใหม่พืชไร่ เน้นไปที่มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จัดแสดงการนำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่การออกแบบและจัดการแปลงเพาะปลูกพืชด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร

5. โซนการก่อสร้าง นำเสนอรูปแบบการใช้งานรถขุดคูโบต้าที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างพื้นที่การเกษตรแบบมืออาชีพ

6. โซนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ นำเสนอรูปแบบการเพาะปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรการเกษตร

7. โซนวิจัยเกษตรครบวงจร ซึ่งจะวิจัยและพัฒนารูปแบบการทำการเกษตรครบวงจรด้วยนวัตกรรมเกษตร

8. โซนอบรมเกษตรครบวงจร เป็นพื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้เกษตรครบวงจรให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจ เพื่อให้เกิดทักษะและนำกลับไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้

และ 9. โซนสร้างประสบการณ์เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร ในโซนนี้จะมีพื้นที่สำหรับทดลองใช้และเลือกเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้าที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกของเกษตรกรแต่ละคน

ทั้งนี้ สยามคูโบต้า วางแผนพัฒนาฟาร์มต้นแบบในระยะที่ 2 และ 3 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 และฟาร์มแห่งนี้จะเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์จริง ร่วมกับการให้ความรู้ด้านเกษตรกรรมเต็มรูปแบบแห่งแรกในอาเซียนแน่นอน 

ตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมาบริษัทผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรภายใต้ระบบคุณภาพมาตรฐานสากล และระบบการจัดการด้านสังคม และอื่นๆ ล่าสุดบริษัทได้รางวัล Outstanding Brands ประเภทอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ในงาน 2018 Asia CEO Summit & Award Ceremony ซึ่งเป็นงานมอบรางวัลให้แก่องค์กรชั้นนำทั่วเอเชียที่มีความโดดเด่นด้านแบรนด์สินค้า และมีเติบโตของธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน โดยงานนี้ มีบริษัทชั้นนำทั่วเอเชียเข้ารับรางวัลในครั้งนี้ 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สิงค์โปร มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ โรงแรม แมริออท ติ้ง พลาซ่า ออร์ชาร์ด สิงคโปร์

สำหรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาคอาเชียน ที่นอกจากจะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรตอบโจทย์การใช้งานของเกษตรกรแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นแบรนด์สินค้าที่อยู่ในใจเกษตรกรไทยมามากกว่า 40 ปีอีกด้วย