จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ด้วยมาตรฐานสากล

จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรมืออาชีพมาตรฐานระดับสากล ย้ำการให้บริการที่มีศักยภาพ มีความเที่ยงตรง แม่นยำ ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเร่งพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้านปตท.เตรียมศึกษาแผนลงทุนระบบลอจิสติกส์รับโอกาสรับขยายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางรถไฟ ทางอากาศ ทางน้ำ คาดเสร็จกลางปี 2562 นี้

นางวิลาวัลย์ สงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จำกัด (GCL) เปิดเผยว่า บริษัท จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จำกัด (GCL) เดิมชื่อ บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (PTTPL) เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2549 เพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ( Full Logistics Services) ในธุรกิจเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตั้งแต่การให้บริการบรรจุภัณฑ์ คลังสินค้า บริหารการจัดส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ การบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และดำเนินพิธีการศุลกากรสำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า

GCL เป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ของกลุ่ม GC ที่มีศักยภาพการแข่งขัน มุ่งเน้นคุณภาพการบริการ และมีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศด้วยระบบที่ทันสมัย นอกจากนี้ล่าสุด GCL ได้จัดตั้งบริษัท พีแอล โกลบอล ทรานสปอร์ต จำกัด (PL Global Transport Co.Ltd.) เพื่อดำเนินธุรกิจขนส่ง และ GC Logistics Solutions (Vietnam) Company Limited เพื่อให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา GCL ได้เข้าพบหารือกับนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และทีมเศรษฐกิจของสถานกงสุลใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับศักยภาพและแนวทางการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ในประเทศเวียดนาม ทั้งทางบกและทางทะเล โดยบริษัทฯ มีแผนให้บริการแบบครบวงจรทั้งการขน จัดเก็บ กระจายสินค้า รวมถึงการดำเนินการพิธีศุลกากร

ปัจจุบัน ความต้องการใช้พลาสติกในเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี แต่ขาดวัตถุดิบในการผลิต จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของเอกชนไทยในการลงทุนด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมี การผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งบริษัทในเครือ GC จากประเทศไทยได้เข้ามาลงทุนแล้ว และเล็งเห็นช่องทางที่จะจัดตั้งธุรกิจด้านโลจิสติกส์ขึ้นทั้งเพื่อให้บริการรองรับสินค้าของเครือบริษัทเอง และให้บริการด้านโลจิสติกส์แก่ลูกค้าอื่นๆ ในเวียดนามด้วย

GCL ดำเนินธุรกิจด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญในการบริการโลจิสติกส์ครบวงจร และเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือจุดแข็งของเรา ในการให้บริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างมีคุณภาพ

บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

เรามีความเชี่ยวชาญในการให้บริการโลจิสติกส์ธุรกิจเคมีภัณฑ์แบบครบวงจร เริ่มจากการให้บริการไซโล การให้บริการบรรจุภัณฑ์ การบริหารคลังสินค้า การให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อื่นให้กับลูกค้าทั้งในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศ การบริการส่งสินค้าข้ามแดน การบริการจองระวางเรือ รวมทั้งบริการดำเนินพิธีศุลกากร

เทคโนโลยี

เรามีศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศขนาด 96,000 ตรม. ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ตั้งอยู่ในตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จ.ระยอง ตลอดจนมีการให้บริการจัดการคลังสินค้าของลูกค้า ประมาณ 50,000 ตรม.และให้บริการคลังสินค้าที่แหลมฉบัง รองรับความความต้องการของลูกค้าบนพื้นที่ EEC นอกจากนี้บริษัทบริหารงานปฏิบัติการด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน อาทิเช่น โปรแกรมระบบบริหารคลังสินค้า (Warehouse Management System) ซึ่งเป็นระบบงานที่มีบทบาทหลักในการควบคุมการเคลื่อนไหว การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า การบริหารคลังสินค้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและ โปรแกรมระบบบริหารงานขนส่ง (Transport Management System) ที่เชื่อมโยงกับ GPS เพื่อวางแผนและติดตามการจัดส่งสินค้าแบบ Real time รวมทั้งมี Transport Control Center เพื่อติดตามสถานะการขนส่ง เพื่อให้การขนส่งเป็นไปด้วยความปลอดภัย รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนที่สุด

นางวิลาวัลย์ เผยถึงการให้บริการของ GCL ว่า 

1. การบริหารบรรจุภัณฑ์และคลังสินค้า

ศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศของ GCL (IDC) เป็นหนึ่งในศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และมีพื้นที่มากกว่า 140,000 ตารางเมตร โดยสามารถรองรับปริมาณการผลิตและจัดส่งเม็ดพลาสติกได้มากกว่า 1 ล้านตันต่อปี อีกทั้งยังสามารถให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจรด้วยระบบที่ทันสมัย ภายใต้การควบคุมของทีมงานมืออาชีพ ซึ่งภายใน IDC แห่งนี้ GCL ได้ให้บริการ การบริหารการบรรจุผลิตภัณฑ์ และการบริการคลังสินค้า

2. บริหารการจัดส่ง

GCL ให้บริการจัดส่งสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ ผ่านระบบบริหารการจัดส่ง (TMS) ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมถึง การออกแบบระบบการขนส่ง การเลือกเส้นทางขนส่ง การจัดตารางการจัดส่ง และการบริหารการขนส่งทางเรือ GCL มีการให้บริการ การขนส่งต่างๆ ดังนี้

การขนส่งสินค้าในประเทศ อาทิเช่น รถ 4 ล้อ, รถ 6 ล้อ, รถ 10 ล้อ และรถ Tank Car

การขนส่งเพื่อนำเข้าและส่งออกสินค้า อาทิเช่น ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต, 40 ฟุต และ ISO Tank

การขนส่งสินค้าข้ามแดน อาทิเช่น รถ 10 ล้อ และรถเทรลเลอร์

3. การบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและบริการพิธีการศุลกากรสำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า

GCL ให้บริการพิธีการศุลกากร และบริการจองระวางเรือ สำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า GCL ได้เข้าร่วมกับสายเรือรายใหญ่หลายราย เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดในการให้บริการ GCL มีการให้บริการดังนี้ การบริหารการขนส่งสินค้าทางเรือ การจองระวางเรือ และพิธีการศุลกากร

GCL ชูนโยบายโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นางวิลาวัลย์ เผยต่อไปอีกว่า จากกระแส Green ถือว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ทุกภาคส่วนธุรกิจต่างก็ให้ความสำคัญในการทำธุรกิจเพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่ง “GCL” นับเป็นผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยได้ยึดถือแนวทางการบริหารแบบ Green เป็นแนวทางหลักของการพัฒนา ควบคู่กับการขยายขีดความสามารถในการรองรับสินค้าเพิ่มขึ้น

“จากเป้าหมายเรื่อง Green Transport ที่ต้องการลดมลภาวะทางอากาศอันเกิดจากการขนส่ง จึงได้จัดให้มีการวิ่งรถขนส่งจากจังหวัดระยองถึงท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด-สัตหีบ (TPT) เพื่อลดระยะทางในการขนส่ง ไม่ต้องเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากนี้ยังมีแผนการเดินรถที่เลี่ยงเส้นทางที่เป็นแหล่งชุมชน และเส้นทางที่มีสถานศึกษา เพื่อให้มีการใช้เชื้อเพลิงที่น้อยที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางที่ทาง ปตท.ให้ความสำคัญและยึดในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด”

นอกจากเรื่อง Green Transport แล้ว GCL ได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001. ISO 14001. TIS 18001. OHSAS 18001. ISO 50001. ISO 22301 และรางวัลการบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class: TQC)

ทั้งนี้ GCL ดำเนินการพัฒนากลยุทธ์ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างแต้มต่อของธุรกิจ และเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้สามารถยืนหยัดในเวทีการค้าได้ จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จำกัด นับเป็นตัวอย่างของบริษัทฯ ที่พัฒนาคุณภาพการบริการ-บุคลากรอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อหวังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง

GCL ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ขององค์กรที่จะสร้างสรรค์บริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์คู่ค้าอย่างมีคุณภาพโดยมุ่งพัฒนาคุณภาพการบริการและการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ ด้วยระบบที่ทันสมัย มีต้นทุนที่แข่งขันได้ เพื่อส่งมอบบริการที่ครบวงจร ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าด้วยบริการที่เหนือความคาดหวัง

ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงาน ทุกคนมีความมุ่งมั่น ที่จะร่วมมือ ร่วมใจกัน นำองค์กรสู่การเป็น Excellence Company กล่าวคือ องค์กรจะพัฒนาขีดความสามารถ และประสิทธิภาพในการแข่งขันใน ทุกๆ มิติเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทผู้ให้บริการที่เป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่าในปี 2562 ปตท.จะใช้เงินลงทุนกว่า 1.3 แสนล้านบาทเพื่อขับเคลื่อนโครงการสำคัญ คือ การลงทุนขยายคลังรับก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แห่งที่ 1 เป็น 11.5 ล้านตันตันต่อปี และแห่งที่ 2 ขนาด 7.5 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ลดลง และเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ที่จะเชื่อมการส่งก๊าซจากภาคตะวันตกและภาคตะวันออก รองรับความเสี่ยงหากพม่าหยุดการจ่ายก๊าซ รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนระบบลอจิสติกส์และคลังน้ำมันบนภาคพื้นดินและอากาศยานเพื่อรองรับการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น รถไฟรางคู่ การขนส่งทางเรือ และทางอากาศ คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จกลางปีนี้ ก่อนกำหนดกลยุทธ์การลงทุนต่อไป

เบื้องต้นบริษัทในกลุ่ม ปตท.ได้กำหนดงบลงทุนโครงการต่างๆ ในปี 2562 รวม 4.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ใช้เงินลงทุน 6 หมื่นล้านบาท, บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล 5 หมื่นล้านบาท, บมจ.ไทยออยล์ 4 หมื่นล้านบาท, บมจ.ไออาร์พีซี 3 หมื่นล้านบาท, บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) 1.4 แสนล้านบาท และ ปตท. 1.3 แสนล้านบาท

“ในช่วง 5 ปีนี้กลุ่ม ปตท.ใส่เม็ดเงินลงทุนเข้าไปในโครงการต่างๆ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ราว 3-4 แสนล้านบาทต่อปี เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐและขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศ”

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุนช่วง 3 ปี 1.4 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 4 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้จะมีการลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนตามแผน 40,000 ล้านบาท ลงทุนตั้งโรงงานรีไซเคิลเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน 3,000 ล้านบาท และร่วมลงทุนประมาณ 5,000- 10,000 ล้านบาท

ขณะนี้เศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณที่ดีในการเจรจาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวขึ้น ทำให้ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอยมีแนวโน้มลดลง ดังนั้นในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องจากปีก่อน

ขณะที่ปี 2563 จะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ (ORP : Olefins Reconfiguration Project) โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide Project) และโครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) จะแล้วเสร็จ

  • date : 07-04-2020