น้ำตาลนครเพชรจุดพลุฉลองหลังปิดหีบฤดูการผลิตปี 2561/2562

น้ำตาลนครเพชร ประกาศความสำเร็จฤดูการหีบอ้อยปี 2561/2562 ด้วยกำลังการผลิต 4 หมื่นตันอ้อยต่อวัน ย้ำความพร้อมจากอ้อยดิบกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามระบบมาตรคุณภาพที่สากลให้การยอมรับ ด้าน สอน.คาดการณ์ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายฤดูผลิตปี 2562/63 ส่อลดลง เหตุเกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นทดแทนหลังราคาตกต่ำต่อเนื่อง เชื่อดันราคาน้ำตาลโลกลุ้นแตะ 15 เซนต์ต่อปอนด์

นายบัณฑิต ผาณิตพิเชฐวงศ์ กรรมการบริหารบริษัท น้ำตาลนครเพชร จำกัด (ในกลุ่มน้ำตาลบ้านโป่ง) เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มดำเนินการหีบอ้อยในฤดูกาลผลิต 2561/2562 เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา และปิดการหีบอ้อยเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยมีกำลังการหีบอ้อย 40,000 ตันต่อวัน คาดว่าจะได้น้ำตาลทรายประมาณ 4,339,451 ตัน และน้ำตาลสำรองอีก 68,000 ตัน รวมน้ำตาลทรายที่ได้ทั้งสิ้น 4,407,451 ตัน

สำหรับการผลิตบริษัทยังคงเน้นย้ำถึงกระบวนการดูแลตั้งแต่วัตถุดิบจนผ่านกระบวนการผลิตได้เป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายออกมาส่งหักับผู้บริโภค ซึ่งในเรื่องของวัตถุดิบบริษัทประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลตั้งแต่พื้นที่การปลูก พันธุ์อ้อย การให้ความรู้ขั้นตอนการปลูกอ้อย การให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย จนถึงการตัดส่งเข้าสู่โรงงานเพื่อผลิตเป็นน้ำตาล

ส่วนการผลิตนั้นบริษัทแบ่งออกเป็นน้ำตาลทรายดิบด้วยกรรมวิธีดิฟเคชั่น น้ำตาลทรายขาวธรรมดา ด้วยกรรมวิธีคาร์บอเนชั่น และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ด้วยกรรมวิธีคาร์บอเนชั่น และเรซิน ซึ่งเป็นขั้นตอนในการผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งกระบวนการผลิตโรงงานน้ำตาลนครเพชรใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและได้ปริมาณน้ำตาลที่สูง รวมถึงใช้ระบบมาตรฐานคุณภาพ ISO9001:2015, HALAL และGMP เข้ามาควบคุมเพื่อให้ได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล

นอกจากนี้เน้นกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและได้คุณภาพของผลผลิตที่สูง โดยการตรวจวัดมาตรฐานคุณภาพอ้อย เพื่อลดปัญหาอ้อยปนเปื้อนและอ้อยไฟไหม้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย จะต้องร่วมมือกันเพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม โดยเบื้องต้นโรงงานน้ำตาลทรายทุกโรงจะเพิ่มระดับความเข้มงวดในการวัดคุณภาพผลผลิตอ้อย เพื่อให้ประสิทธิภาพการหีบสกัดเป็นน้ำตาลทรายได้สูงสุด ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลดีต่อทุกฝ่ายทั้งชาวไร่และโรงงานน้ำตาลทราย  ที่สำคัญที่สุดบริษัทยังให้ความรู้แก่เกษตรกรและการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพราะเชื่อว่าเกษตรกรและบุคลากรคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของบริษัทฯที่ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้านนายนคร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ผู้อำนวยการด้านโรงงาน กล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะ 32 ปี บริษัทมุ่งเน้นพัฒนากระบวนการที่ได้มาซึ่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพโดยมีเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรพร้อมรองรับการผลิตได้รวมถึงมีระบบมาตรฐานสากลควบคุมในทุกขั้นตอนการผลิตทำให้เชื่อมั่นน้ำตาลทรายที่ผลิตมีคุณภาพในระดับสากล

สำหรับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการซ่อมบำรุงและปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทุกๆ ปี ก่อนเข้าสู่ฤดูการหีบอ้อยจะมีซัพคอนแทร็คเตอร์เข้ามาทำงานให้กับโรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงห้างหุ้นส่วนจำกัด กาญจนบุรี เอ ที เซอร์วิส

 “ทั้งนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กาญจนบุรี เอ ที เซอร์วิส ถือเป็นพันธมิตรของบริษัทเพราะมีประสบการร์สูงและความเชี่ยวชาญพด้านงานโอเวอร์ฮอลเทอร์บาย และเจเนอร์เรเตอร์ ที่ผ่านมาทำงานได้ดีมีคุณภาพ ระยะเวลาส่งมอบงานตรงตามกำหนดเวลา ทำให้บริษัทมั่นใจเมื่อส่งมอบงานให้ไปทำ”

อย่างไรก็ตามนอกหนือจากการผลิตที่ได้คุณภาพที่โรงงานน้ำตาลนครเพชรกำหนดแล้ว เรื่องกิจกรรมทางด้านสังคมก็ได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมและเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย ได้แก่ โครงการ”มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส”ประจำเดือนมิถุนายน2562 ซึ่งนำโดย นายจงกล ใยยวง ผู้จัดการฝ่ายจัดหาวัตถุดิบ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฯ

ร่วมกิจกรรมจิตอาสาปรับปรุงประปาภูเขา(หาน้ำให้น้อง) ในพื้นที่หมู่บ้านโละโคะ ต.โกสัมภี อ.โกสัมภี จ.กำแพงเพชร ซึ่งทางบริษัท น้ำตาลนครเพชร จำกัด ได้ร่วมสนับสนุนน้ำดื่มตรานครเพชร จำนวน 960 ขวด เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่

โครงการ”นครเพชรสร้างห้องน้ำ สุขาสร้างสุขเพื่อผู้ยากไร้” พร้อมระบบแสงสว่าง จำนวน 2 หลัง เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการ”มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้” จำนวน 20 ราย. ภายในตำบลเทพนคร.

ร่วมต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากสมาคมน้ำตาลของอินโดนีเซีย(Asosiasi Gula Indonesia:AGI) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรน้ำตาลอาเซียน(ASEAN Sugar Alliance:ASA) ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด(TSMC) เพื่อศึกษาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีการหีบอ้อย/ผลิตน้ำตาลทราย/การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และการพัฒนาไร่อ้อย

มอบสิ่งของช่วยเหลือ โครงการ "มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้" ภายในตำบลเทพนคร จำนวน 19 ราย และผู้พิการ อีก 1 ราย จากหมู่ 11 บ้านคลองปิ่นโต ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จ.กำแพงเพชร มอบสิ่งของช่วยเหลือ (ข้าวสาร/อาหารแห้ง/เครื่องใช้ประจำวัน) ตามโครงการของบริษัท น้ำตาลนครเพชร จำกัด ภายใต้ชื่อโครงการ"มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้" ให้กับ ด.ช.กฤษฎา ท้วมนิ่ม อายุ 14 ปี ผู้พิการไม่สามารถขยับร่างกายได้เอง พูดคุยสื่อสารได้บ้าง อาศัยอยู่กับปู่ย่า รวม 3 คน อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.11 บ้านคลองปิ่นโต ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร โดยทางบริษัทฯ จะรับเป็นสมาชิกภายในโครงการฯ ดังกล่าว เดือนละ 1 ครั้ง ตลอดชีวิต

นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า สอน. คาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลทรายตลาดโลกฤดูการผลิตปี 2562/63 จะต่ำกว่าฤดูการผลิตที่ผ่านมา เนื่องจากนักวิเคราะห์มองสถานการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงขึ้น ประกอบกับราคาอ้อยที่ตกต่ำต่อเนื่องมา 3-4 ปี ส่งผลให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นที่มีราคาดีกว่า หลังจากนั้นประเมินแนวโน้มราคาน้ำตาลโลกจะเข้าสู่จุดสมดุลระหว่างการผลิตและการบริโภคน้ำตาล ทำให้ระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกกลับมาสู่ระดับราคา 15 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ทำให้ประเทศผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายอยู่ได้

“ขณะนี้ สอน. ยังคงติดตามปัจจัยพื้นฐานของสถานการณ์ภัยแล้งและราคาน้ำตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภัยแล้งที่มีผลกระทบต่อผลผลิตไทยและอินเดียเป็นสำคัญ ขณะที่จีน อินโดนีเซียยังคงมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลแทนการส่งออกน้ำตาล ทั้งยังมีการเก็งกำไรจากการซื้อขายล่วงหน้า ทำให้ราคาน้ำตาลโลกกลับเข้าสู่จุดสมดุลได้”นางวรวรรณ กล่าว

สำหรับอ้อยของไทยฤดูการผลิตปี 2561/62 ที่ปิดหีบไปล่าสุดมีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 130 ล้านตัน มีปริมาณน้ำตาลทรายที่ผลิตได้ประมาณ 14.5 ล้านตัน แม้ปริมาณอ้อยจะลดลง 4 ล้านตัน แต่ปริมาณน้ำตาลใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เห็นได้จากค่าความหวานที่สูงจากประสิทธิภาพโรงงานที่เพิ่ม ทำให้ภาพรวมตัวเลขผลผลิตสูงกว่าที่ประเมินไว้ และสามารถส่งออกได้ประมาณ 12 ล้านตัน เป็นภาวะเดียวกับอินเดียที่ผลผลิตก็เหลือบริโภคในประเทศ ทำให้ปริมาณน้ำตาลโลกมีสต็อกล้นเกินความต้องการในฤดูนี้

นางวรวรรณ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือนก.ค. 2563 อยู่ที่ประมาณ 13.06 เซนต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทางบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย (อนท.) พยายามทำราคาขายน้ำตาลล่วงหน้าในระดับราคาที่ไม่ให้ต่ำกว่า 13 เซนต์ต่อปอนด์ เพื่อไม่ให้ราคาอ้อยที่จะคำนวณขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ตกต่ำ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้ ม.44 ประกาศลอยตัวราคาขายปลีกน้ำตาลทรายในประเทศ 2 ฤดูการผลิต ที่จะครบกำหนดสิ้นเดือนก.ย.นี้ นั้น อาจมีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเฉพาะบางมาตราเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปปกติ แต่ก็มีกฤษฎีกาบางท่านเสนอว่าให้กำหนดแบบไม่กำหนด คงต้องหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลกฎหมายอีกครั้ง

ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อ้อยและน้ำตาลทราย ที่สอน. ยกร่างใหม่ได้ปรับปรุงบางมาตรา เตรียมเสนอให้รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่พิจารณาอีกครั้ง หากไม่ต้องแก้ไขก็ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ จากนั้นก็เข้าสู่วาระการพิจารณาในขั้นกรรมาธิการได้ทันที

  • date : 07-04-2020