“เชาวน์ดี อีสาน” ปักธงอุดรฯ เปิดโรงงานใหม่ เน้นผลิตสินค้าคุณภาพ พร้อมรุกสู่ Green Industry

บริษัท เชาวน์ดี อีสาน จำกัด (ในกลุ่มเชาวน์ดี สตาร์ชฯ) ผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศที่ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้สินค้าปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม รองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ เตรียมเปิดโรงงานผลิตอย่างเป็นทางการที่จังหวัดอุดรธานี พร้อมรุกสู่ Green Industry โดยได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เร่งสร้างโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) ขนาด 1.5 MW คาดปี 2562 สามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าหมายไม่น้อยกว่า 840 ล้านบาท

นายประพันธ์ เชาวน์ดี กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยกับ “บิซไทยนิวส์ อินไซท์” ล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังอย่างเป็นทางการ บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ณ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี โดยปัจจุบันการก่อสร้างโรงงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจมีล่าช้าบ้างเล็กน้อยในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาแต่ก็ถือว่าเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้อย่างรัดกุม ประกอบกับทีมงานของบริษัท ทีมงานผู้รับเหมา และผู้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรต่างๆ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานกันเป็นอย่างดี จึงส่งผลให้การก่อสร้างค่อนข้างเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านเครื่องจักร บริษัทได้คัดสรรเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่มีศักยภาพสูงทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อให้ได้กระบวนการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังประมานเดือน สิงหาคม 2562

ด้านกำลังการผลิต โรงงานแห่งนี้มีความสามารถในการผลิตได้สูงสุดอยู่ที่ 350 ตันแป้งต่อวัน รองรับผลผลิตมันสำปะหลังจากเกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร้อยเอ็ด กาฬสิน ขอนแก่น และเลย โดยสามารถรับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกรได้เฉลี่ยต่อวันสูงถึง 1,400 ตันต่อวัน โดยโรงงานแห่งนี้จะช่วยลดต้นทุนในการขนส่งหัวมันสำปะหลังให้กับเกษตรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในอดีตนั้นเกษตรกรต้องขนมันสำปะหลังไปขายให้กับโรงงานที่อยู่ไกล แต่เมื่อมีโรงงานแห่งนี้ก็ช่วยให้เกษตรกรสะดวกขึ้น ประหยัดค่าขนส่ง ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ด้านการตลาด บริษัทตั้งเป้าหมายการตลาดไว้คือ จำหน่ายในประเทศ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเน้นในกลุ่มลูกค้าโรงงานผลิตกระดาษเป็นกลุ่มหลัก และจำหน่ายไปยังต่างประเทศ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยกลุ่มลูกค้าต่างประเทศจะเน้นในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2562 คาดว่าจะสามารถจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังได้ไม่น้อยกว่า 70,000 ตันแป้ง หรือ สร้างยอดขายไม่น้อยกว่า 840 ล้านบาท อย่างแน่นอน

ด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (Biogas) บริษัทได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) ขนาด 1.5 MW โดยใช้น้ำเสียจากกระบวนการผลิตมาเข้าสู่บ่อหมัก Biogas แล้วก็เข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในโรงงาน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการลดการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานสู่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรงงานของเราเป็นโรงงานที่ไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมตามนโยบาย Green Industry ที่เรามุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และค่อนข้างพึงพอใจกับภาพรวมทั้งหมดของโครงการ

ด้านแรงงาน โรงงานแห่งนี้เน้นการรับแรงงานในพื้นที่เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับชุมชนใกล้เคียงโรงงาน ซึ่งได้มีการรับสมัครงาน และคัดเลือกบุคลากรตามคุณสมบัติของแต่ละตำแหน่งงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้มีการฝึกอบรมตามตำแหน่งงานแต่ละประเภท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการมีผลตอบแทนและสวัสดิการตามกฎหมายแรงงานกำหนด เพื่อให้บุคลากรทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

  • date : 17-06-2019