สยามโกลเด้นไรซ์อัดงบ 250 ลบ. ลุยเปิดโรงงานใหม่อย่างเป็นทางการ

บริษัท สยามโกลเด้นไรซ์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ซึ่งลงทุนไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน เพื่อสร้างโรงงานปรับปรุงคุณภาพข้าว บนเนื้อที่กว่า 10 ไร ในจังหวัดสระบุรี โดยมีกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 500 ตันต่อวัน

เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งข้าวไทยยังได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในด้านของคุณภาพ ประกอบกับความโดดเด่นในด้านของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวห้อมมะลิ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลกว่าเป็นข้าวที่มีความหอม อร่อย จนเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเป็นอย่างมาก จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ “สยามโกลเด้น ไรซ์” ได้เล็งเห็นถึงอาโอกาสในการขยายตลาดข้าวไทยเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก โดยเน้นการทำตลาดจากคุณภาพของข้าวไทยที่ต้องมีมาตรฐานในระดับสากล

นายอุษวิช พันธ์วุฒิกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโกลเด้นไรซ์ จำกัด เปิดเผยกับ “บิซไทยนิวส์ อินไซท์” ถึงการลงทุนของบริษัทฯ ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ซึ่งลงทุนไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน เพื่อสร้างโรงงานปรับปรุงคุณภาพข้าวสาร บนเนื้อที่กว่า 10 ไร ในจังหวัดสระบุรี โดยมีกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 500 ตันต่อวัน

ด้านการก่อสร้าง ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงการทดลองการผลิต ซึ่งที่ผ่านการการก่อสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากมีการวางแผนการดำเนินงานไว้เป็นอย่างดี โดยมีการประเมินความเสี่ยงทั้งก่อนและหลังการปฏิบัติงาน อาจมีล่าช้าไปบ้างเล็กน้อยเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงฤดูฝนจึงทำให้การก่อสร้างมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้างซึ่งก็เป็นสภาวะแวดล้อมที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่โดยภาพรวมของงานก็ถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางแผนไว้อย่างน่าพอใจ

ด้านเครื่องจักร บริษัทฯ ได้คัดสรรและนำเข้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างประเทศ โดยเป็นเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ช่วยให้การผลิตแม่นยำ ตรงตามความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญต้องมีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วย ซึ่งดำเนินการติดตั้งไปแล้วเกือบๆ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานจากต่างประเทศกับผู้รับเหมาชาวไทย โดยมีการวางแผนร่วมกันเพื่อให้การติดตั้งเครื่องจักรเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการทดสอบกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ตรงตามความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ด้านการผลิต เราใส่ใจตั้งแต่การออกแบบโรงงานผลิตให้ได้มาตรฐานระดับบสากล มีระบบระบายอากาศที่ดี ทำให้อากาศถ่ายเทดี เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิตตั้งแต่การรับวัตถุดิบเข้าสู่โรงงาน โดยตลอดห่วงโซ่การปรับปรุงคุณภาพข้าวแต่ละเมล็ดจะผ่านทั้งเครื่องทำความสะอาดคัดแยกสิ่งเจือปน เครื่องแยกหิน เครื่องขัดมัน ตะแกรงเหลี่ยม ตะแกรงกลมสำหรับแยกเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ ปิดท้ายด้วยเครื่องแยกสีที่จะคัดแยกสิ่งเจือปนที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคออกไปในขั้นสุดท้าย

การที่ข้าวทุกเมล็ดผ่านกระบวนการต่างๆ มากมายก่อนนำไปบรรจุถุงนั้น นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยกำจัดไข่มอดและแมลงอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมีในการพ่นรมเพื่อฆ่ามอดและแมลงที่จะปนเปื้อนไปกับเมล็ดข้าว สำหรับข้าวสารที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพเรียบร้อย จะถูกบรรจุด้วยเครื่องบรรจุอัตโนมัติที่สามารถบรรจุข้าวลงถุงได้ในขนาดตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 1,000 กิโลกรัม ซึ่งมีกำลังการผลิตมากกว่า 500 ตัน/วัน พร้อมระบบตรวจจับโลหะ และเครื่องทวนสอบน้ำหนักหลังการบรรจุทุกถุง จากกระบวนการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมันของเราที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดค้าข้าวทั้งในระดับประเทศและตลาดสากล

จากการนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีมาตรฐานระดับสากลมาใช้ นับเป็นโรงงานข้าวที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคโดยได้พัฒนาตั้งแต่การคัดสายพันธุ์ กระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ ตลอดจนการตรวจสอบที่เข้มข้นและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนทำให้ได้สินค้าที่มี คุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล อีกทั้งเรายังได้รับการรับรองการผลิตข้าวหอมมะลิไทยเพื่อการส่งออกจากกรมการค้าต่างประเทศ และได้รับมาตรฐานต่างๆ  อาทิ CODEX, GMP และ HACCP เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกมั่นใจได้ว่าจะได้บริโภคข้าวหอมมะลิไทยที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมจากประเทศไทยอย่างแท้จริง

  • date : 07-04-2020